วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

INTRO : มาเที่ยวไปกับเราน้า

ก่อนไปเจอคำสบประมาทเยอะมาก โดยเฉพาะมาเลเซีย "ไปทำไม ไม่มีอะไรเลย" เราเลยคิดว่า เอาวะ จองตั๋วละ ยังไงก็ลองไปดู มาเที่ยวไปพร้อมกับพวกเรานะคร้าบ ^_^
เส้นทาง กทม-->กัวลาลัมเปอร์-->มะละกา-->ยะโฮร์บารู-->สิงคโปร์-->กทม

เมนูลัดไปยังลิงค์ต่างๆ

Day 1 : Kuala Lumpur จุดเริ่มต้นของการผจญภัย + โรงแรมแนะนำที่มะละกา

เริ่มต้นเดินทางตั้งแต่เช้า จากสนามบินดอนเมือง ไป สนามบิน KLIA2 โดยสายการบินแอร์เอเชีย สนามบินโล่ง ร้างมากๆ จากนั้นก็นั่งรถเมล์เข้าเมืองไปกัวลาลัมเปอร์
ด้วยความที่หิวมาก เพราะไม่ได้กินข้าวเช้า จึงแวะกินข้าวร้าน เคเอฟซี สถานี KL sentral ราคาอาหารพอๆกับเคเอฟซีไทย
กินเสร็จ นั่งรถไฟไป Batu Caves อารมณ์ประมาณรถไฟหวานเย็นบ้านเรา แต่ทันสมัยกว่า555555
 ถึงแล้ว ถ้ำBatu แต่ระหว่างทางเจอถ้ำรามายณะ ว่าจะเข้าไปดูละ พอเห็นว่าเสียตังค์จึงไม่เข้าไป
 ถ้ำบาตู เป็นวัดฮินดูที่ตั้งอยู่อยู่บนหน้าผา นักท่องเที่ยวนิยมมาชมถ้ำ วิว ที่สำคัญเข้าฟรี555555
ภายในถ้ำมีแสงจากด้านบนส่องลงมาด้วย สวยมากๆ
อีกมุมนึง
ขากลับ ด้วยเวลาที่เขาเลิกงานกันและพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการของเค้า(เทศกาลฮารีลายา) อารมณ์ประมาณเทศกาลสงกรานต์บ้านเรา ทำให้มีคนใช้รถไฟจำนวนมาก ทำไมนึกถึงตอนนั่งแอร์พอร์ตลิ้งบ้านเรา
 เริ่มเลทละ จึงไปถ่ายรูปตึกเปโตรนาสอย่างเร่งรีบ แล้วเดินทางไปต่อรถบัสไปมะละกาที่ท่ารถ
นั่งรถบัสประมาณ 2 ชั่งโมงก็ถึงมะละกา เวลาตอนนั้นเกือบ 4 ทุ่มละ รถเมล์เข้าเมืองไม่มี จึงต้องนั่งแท็กซี่ แล้วก็โดนฟันหัวแบะตามคาด ค่าเสียหาย 30 ริงกิต (270 บาท) นั่งไปสัก 10 นาทีก็ถึงโรงแรม
 โรงแรมของเราคืนนี้ ชื่อว่า My friend guest house โรงแรมที่ดัดแปลงจากอาคารสำนักงานของคนจีนอะไรสักอย่าง เจ้าของเป็นกันเองมาก โอกาสหน้าถ้ามามะละกาจะกลับมานอนที่นี่อีก
 ห้องพักแยก แต่ห้องน้ำรวม
ภายใต้ความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีอยู่ ใกล้กับโรงแรมมีตลาดนัดเทศกาลฮารีลายา มีที่ฝากท้องแล้ว เย่

Day 2 : มะละกา ดินแดนของฮิปสเตอร์ + ยะโฮร์บาห์รู เมืองที่เงียบเหงา

 มาสคอตประจำเมืองมะละกา.... ป่าววะ???555555
 เช้าตื่นมา เดินเที่ยวเล่นในมะละกา ระหว่างทางผ่านถนนคนเดิน Jonker Street มีของขายทั้ง 2 ฟากถนน ด้วยวันนี้เป็นวันหยุดของเค้า ทำให้มีคนและรถเยอะมาก
 มาถึงแลนด์มาร์กสำคัญ ของเมืองนั่นก็คือ Dutch Square
 บรรยากาศโดยรอบ สามารถขึ้นไปด้านบนถ่ายวิวโดยรอบได้
 ด้านหลังจาก ดัตช์สแควร์ จะเป็นเนินเขาเล็กๆ เป็นที่ตั้งของ A Formosa ป้อมโปรตุเกสเก่า สร้างตอนที่โปรกุเกส มาครอบครองมะละกา เพื่อค้าขาย ทำมาหากิน
 ยอดเนินเขาเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์ปอล โบสถ์เก่าสมัยโปรตุเกสมาครอบครอง
 ตามถนนเล็กๆในมะละกาจะพบสตรีทอาร์ตได้ทั่วไป เหมือนกับที่ปีนัง

 ตอนบ่ายเดินทางกลับไปยังท่ารถ นั่งรถเมล์ จากโรงแรม เสียค่าตั๋ว 1 ริงกิตเอง 555555
 นั่งรถบัสจากมะละกาไปเมืองยะโฮร์ บาห์รู นั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมง รถนั่งสบายมาก
โรงแรมที่ยะโฮร์บารู ชื่อว่า Olive Hotel อยู่ใกล้สถานีรถบัสมากๆ เดินแค่ 5 นาทีก็ถึง พนักงานโรงแรมเป็นมิตรมากๆ สุโค้ยๆ

Day 3 : Legoland แดนเนรมิต + ตม.สิงคโปร์ ในตำนาน + Singapore Night Walking Tour

 เช้าวันที่3 ก็กลับมาที่ท่ารถเดิม นั่งรถเมล์ไปเที่ยวเลโก้แลนด์กันนนน

ถึงแล้ว เลโก้แลนด์ ไปก่อนเปิด ตั้งชั่วโมงนึง ไร้ซึ่งผู้คน ซื้อตั๋วเข้ามี่หน้าสวนสนึกได้ แต่ถ้าจองทางเน็ต จะลด 20% หรืออาจจะ 25% เลย

 ขนาดในห้องน้ำยังมีรูปตกแต่งด้วย
 ใครเห็นเป็นต้องถ่ายรูป
 เครื่องเล่นที่เราคิดว่าสนุกที่สุด เป็นรถไฟเหาะคันเล็กๆ นั่งได้ 4 คน ตอนเล่นฝนตกหนักมากๆ เปียกทั้งตัวเลย เสียค่าโง่ไป
 ทำได้ไงวะเนี่ย!!!!
 มีโซน Star Wars จำลองฉากสำคัญๆในหนังด้วย ดูไปงงไป เพราะไม่เคยดู55555
 อีกเครื่องเล่นนึงที่น่าสนใจคือรถไฟเหาะมังกรยาวๆ เราชอบวิธีการจัดคนนั่งนะ ถ้ามาคนเดียวหรือมาเป็นเลนคี่ เค้าจะให้เรานั่งเดี่ยวๆ แบบไม่จับคนอื่นมานั่งข้างๆด้วย ชอบๆ
 โซนอียิปต์ มีเครื่องเล่นยิงปืนเลเซอร์ ไปที่เซ็นเซอร์ตามจุดต่างๆ ยิงงงๆมั่วๆคะแนนน้อยมาก555555
 โซนเมือง เป็นโซนที่เราว่าจัดฉากไว้สวยมากๆ มีมุมให้ถ่ายแจ่มๆเยอะ
 หน้าสถานีรถไฟ
 โซนต่อมาคือ Miniland เป็นการจำลองสถานที่ต่างๆในอาเซียนและเอเชีย รถ คน สถานที่เคลื่อนไหวได้เอง สุดยอดจิงๆ จากภาพเป็นเป็นมัสยิดสักแห่ง ในมาเลเซีย 5555
 สนามบิน KLIA
 อ่าวมาริน่า สิงคโปร์
 ทัชมาฮาล เก็บรายละเอียดทุกจุดจริงๆ
 ประตูชัย เวียงจันทน์ ในลาว
 วัดอรุณ ไทยแลนด์ก็มาด้วยนะคร้าบ
 ที่ไหนสักเเห่งในมาเลเซีย 5555555
 หน้าที่ของเราคือดูแลความสะอาดห้องน้ำครับ
 สรุป-->เลโก้แลนด์ เหมาะกับคนที่พาเด็กมาด้วย หรือ หาที่สวยๆถ่ายรูป เพราะมีฉากสวยๆไว้กดชัตเตอร์เยอะมากๆ ที่นี่ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่แม้ถึงช่วงพีคๆ ต่อเครื่องเล่นไม่นาน โดนเฉพาะพวกเครื่องเล่นเสียวๆ
 เสร็จจากเลโก้แลนด์ เราก็ไปนั่งรถเมล์ causeway link สาย CW7L ข้ามชายแดนไปสิงคโปร์ ครั้งนี้ผมข้ามฝั่ง Tuas link เพราะใกล้กว่าไปทาง Woodlands ผ่านด่านขาออกมาเลเซียอย่างง่ายดาย ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที แต่ว่า.... ของจริงอยู่ต่อจากนี้ไป555555
 ถึงแล้วด่านขาเข้า สิงคโปร์ อันเลื่องชื่อ เราอ่านจากพันทิป ว่า ด่านทางบกเค้าจะจับตาคนไทยเป็นพิเศษเพราะเป็นเส้นทางเข้ามาทำงานผิดกฎหมาย ค้าของเถื่อน เราใช้เวลาต่อคิวกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง กว่าจะผ่านมาได้ ตม.ถามเยอะตามที่คิดไว้จริง เตรียมตั๋วกลับกับใบจองโรงแรมไว้เลย เค้าต้องขอแน่ๆ
 ถึงแล้วที่พักของเรา 2 คืนนี้ ที่ 5footway.inn project bugis อันเลื่องชื่อในพันทิป โดยรวมเราว่า เหมาะสมกับราคา เพราะที่พักค่อนข้างโอเค ใกล้ตัวเมือง มีโทรศัพท์4gให้ใช้ แต่โชคร้ายห้องที่เราไปใช้ล็อกเกอร์ไม่ได้ โชคดีที่เราไปกัน 3 คน และยังพอเหลือล็อกเกอร์ที่ล็อคได้พอเก็บของมีค่า
 สถานที่แรกในสิงคโปร์ คือ Fountain of Wealth เป็นนำ้พุที่อยู่ตรงกลางของ Suntec City ซึ่งครั้งที่แล้วไม่ได้มา ก็เลยแวะมาดูซะหน่อย
 ซูมใกล้ๆ
 ระหว่างทางจ้ำอ้าวเพื่อจะไปดูโชว์ Garden By The Bay ให้ทัน ก็จะผ่านสะพาน The Helix เป็นเกลียวๆคล้าย DNA
 และแล้วก็มาถึง Garden By The Bay
โชว์ Garden By The Bay มีแสงสีประดับประดาตามต้นไม้ที่สวยงามมาก ขนาดเราต้องเอนกายนอนลงบนพื้น ดูอย่างเพลิดเพลินจนลืมเวลาไปเลย โชว์มีทุกวัน 19.45 และ 20.45